- พระขุนแผนนาคเกี้ยว ผงอาถรรพณ์วิเศษหลายชนิด อาบน้ำผึ้งมหารัญจวน
- พระสมเด็จชนะมารปราบอาถรรพณ์ เสริมดวงเศรษฐี
- พระรูปเหมือนบูชา "ดวงเศรษฐี มั่งมี ศรีสุข" หลวงปู่ข้าวแห้ง (บายกริม)
- ดวงตาอรหันต์ส่องทรัพย์ (ดวงตาสวรรค์) หลวงปู่ข้าวแห้ง (บายกริม)
- กุมารยิ้มรับทรัพย์ เนื้อโลหะ หลวงปู่ข้าวแห้ง (บายกริม)
- กุมารยิ้มรับทรัพย์ หลวงปู่ข้าวแห้ง (บายกริม) เนื้อดิน 7 ป่าช้าผสมผงวิเศษ
- ลูกอมสารพัดดี หลวงปู่ข้าวแห้ง (บายกริม) วัดตาปันศรัทธาธรรม จ.สุรินทร์
- สีผึ้งเทพรัญจวน มนต์ขุนแผนมหาเสน่ห์ หลวงปู่ข้าวแห้ง
- น้ำมันเสน่ห์เทพรัญจวน มนต์ขุนแผนมหาเสน่ห์ หลวงปู่ข้าวแห้ง
- พระกริ่งโภคทรัพย์ เจ้าชายชัยวรมัน หลวงปู่ข้าวแห้ง รุ่นบูชาครูเศรษฐีรับทรัพย์
- พระขุนแผนอุ้มไก่ หลวงปู่ข้าวแห้ง รุ่นบูชาครูเศรษฐีรับทรัพย์
- เหรียญเสมาหลวงปู่ข้างแห้ง ด้านหลังนารายณ์ออกศึกตรงไตรภพ รุ่นบูชาครูเศรษฐีรับทรัพย์
- เหรียญเสมาบูชาครูหลวงปู่สรวง ด้านหลังหลวงปู่ข้าวแห้ง รุ่นบูชาครูเศรษฐีรับทรัพย์
วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ถ้าเอ๋ยถึงหลวงปู่สรวง คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก หลวงปู่เป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไร ไม่มีใครทราบ รู้แต่ว่าเป็นอริยะสงฆ์ อยู่เหนือกาลเวลา ๕๐๐ พรรษา ท่านจะวัดทั่วจักรวาลนึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป ชาวบ้านนับพันนับหมื่นแห่งดินแดนอีสานใต้ได้ตั่งชื่อให้ท่านว่า "ผู้วิเศษแห่งภูตะแบง หรือเทวดาเล่นดิน" นั่นเอง อภินิหารต่างเล่าขาoกันมาจากปากต่อปาก สื่อสิ่งพิมพ์แพร่เรื่องราวของหลวงปู่อยู่จนมาถึงปัจจุบัน ถ้าพูดถึงวัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมกันมากอย่างกว้างขวาง นักเล่นพระ และลูกศิษย์ลูกหาของท่านต่างก็เสาะแสวงหาเพื่อให้ได้มาครอบครองเก็บไว้เป็นสิริมงคล และดีครอบจักรวาล เรื่องพุทธคุณไม่ต้องพูดถึงและบรรยายมาก เช่น พวกมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมค้าขาย โชคลาภ ปัจจุบันมีผู้สืบสานตำนานหลวงปู่สรวง ท่านอริยะสงฆ์ท่านผู้นั้น
หลวงปู่ข้าวแห้ง (บายกริม) วัดตาปันศรัทธาธรรม บ้านตาปัน ต.สำเภาลูน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้เป็นสหธรรมมิกที่สนิทสนมกันมากกับหลวงปู่สรวง (บายตรึกเจีย) และท่านก็มีอุปนิสัยคล้ายกับ หลวงปู่สรวงมาก เรียกได้ว่าเหมือนพี่น้องอย่างไรอย่างนั้น ท่านชอบธุดงค์เป็นวัตรปฏิบัติ นอกจากนี้แล้วท่านเป็น พระที่ไม่ยึดติดกับวัตถุสิ่งของหรือสิ่งอื่นใดไม่มีสมบัติ หรือของมีค่าที่เป็นของส่วนตัว ท่านสละแล้วซึ่งทุกสิ่ง เมื่อ ท่านได้รับของถวายจากญาติโยม ท่านก็จะเอาไปแจกให้กับชาวบ้าน ผู้ที่ขาดแคลนทานมักแจกเป็นทานจนหมด จะมีไว้ก็แค่จำเป็นตามฐานานุรูปของพระสงฆ์เท่านั้น แม้กระทั่งได้ปัจจัยมาท่านก็จะนำไปทำบุญ และจะสวดบอกกล่าวเทวดาเสริมบารมีให้กับผู้ที่ถวายเงินทุกปี หลังจากออกพรรษาหลวงปู่เข้าแห้งได้ออกเดินธุดงค์ ไปตามลำพังท่านอยู่ตามป่าเขาลำเนาไพรไม่มีใครทราบว่าท่านจะไปไหน ท่านจะไม่บอกให้ใครรู้ต้องคอย ติดตามสืบหาที่อยู่ของท่านจากศิษย์ผู้ใกล้ชิด ท่านเป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยเมตตามหาบารมี กระแสจิตของท่านเร็วและแรงความจำดีเป็นเลิศ ท่านเป็นผู้สืบสานตำนาน หลวงปู่สรวง ศรีสะเกษ เป็นมหาเถราจารย์ ๕ แผ่นดิน หลวงปู่ข้าวแห้งตอนนี้ อายุท่าน ๑๒๒ ปี
วัตถุมงคลของหลวงปู่ข้าวแห้ง ประสบการณ์ก็ไม่แพ้วัตถุมงคลของหลวงปู่สรวง ในเรื่องเมตตา โชคลาภ ลูกศิษย์ของท่านถูกหวยรวยเบอร์เป็นว่าเล่น อาทิ คุณราตรี คุณอนุรักษ์ คามจังหาร สองสามีภรรยา อยู่จังหวัด นนทบุรี ได้ไปกราบหลวงปู่ข้าวแห้งเป็นประจำ ได้อธิษฐาน ขอให้ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ 1 สักครั้งในชีวิต กลับมา ซื้อล๊อตเตอรี่ ก็ได้ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม 2558 (เลข 033363) จำนวนเงิน หกล้านบาท ตาม คำอธิฐานหลังจากนั้น ก็ถูกทั้งล๊อตเตอรี่ 2 ตัว 3 ตัว ตลอดเรื่อยมา ญาติพี่น้องและเพื่อฝูงต่างก็นับถือศรัทธาหลวง ปู่กันทั้งนั้น ต่างก็ถูกหวยรวยเบอร์ไปตามกัน และมีลูกศิษย์จำนวนมากที่ได้โชคจากท่านทั้งหวยบนดินและใต้ดิน ที่ ไม่สามารถนำมาเผยแผ่ได้ นอกจากได้โชคลาภ รวมไปถึงการทำมาค้าขึ้น ซื้อง่ายขายคล่อง การค้าเจริญรุ่งเรือง หน้าที่ การงานเจริญก้าวหน้าหลังจากไปนมัสการกราบท่านมา ประสบการณ์มากมาย แล้วแต่อธิฐานขอในทางใด ทำให้ท่าน มีชื่อเสียงโด่งดังปากต่อปาก แต่ละวันมีลูกศิษย์วนเวียนไปกราบท่านไม่ขาดสาย
วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ประวัติหลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ วัดบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ หรือพระครูวิบูลย์ ปัญญาวัฒน์ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พ.ค.2454 จบ ป.4 เป็นชาวบ้านดู่ ต.ปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ บุตรนายเอี้ยง กับ นางเตียบ ดิบประโคน มีพี่น้อง 4 คน หลวงปู่ผาดเป็นคนที่ 3 ขณะหลวงปู่ผาด อายุยังไม่ถึงขวบครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้บรรพชาบวชสามเณร เมื่อปี 2470 อายุ 15 ปี ที่วัดบ้านพลับ ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ บวชได้ 2 พรรษา ลาสิกขาบทไปช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา
ต่อมาปี 2476 ขณะมีอายุ 22 ปี ได้อุปสมบทบวชเรียนที่วัดบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เมื่อครั้งอดีตสมัยท่านเป็นพระหนุ่มๆ ท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งทางพระเวทย์ วิชาแพทย์แผนโบราณต่างๆ ตามความเชื่อ และความนิยมของชาวพื้นบ้าน ในสมัยนั้น ได้ไปศึกษาเล่าเรียนเวทวิทยาอาคมที่จังหวัดอุดรมีชัย ถึง 3 ปี (ในสมัยนั้น จังหวัดอุดรมีชัย ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย ) จากนั้นท่านได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ แทบจะทุกภาคของไทยและประเทศใกล้เคียง เคยธุดงค์ไปศึกษาวิชาอาคมที่นครวัต ที่ประเทศเขมร เป็นเวลา 8 ปี จนมีความรู้เจนจบในไสยเวททุกแขนง แตกฉานในวิปัสสนากรรมฐาน อย่างแจ่มแจ้ง ต่อมาเมื่อท่านมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับถวายที่ดินจากชาวบ้าน จากนั้นท่านก็ได้บูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า จนเป็น วัดตาอี ให้เห็นเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน
ต่อมา หลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด ได้มรณภาพลง ชาวอำเภอบ้านกรวด จึงได้นิมนต์ หลวงปู่ผาด มาเป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงปู่ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด มาโดยตลอด แต่ในที่สุดท่านก็ทนแรงศรัทธาของญาติโยมไม่ไหว จึงต้องยอมรับ เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด เมื่อพ.ศ.2495 ก็ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด จนถึงปัจจุบัน
หลวงปู่ผาด ท่านได้พัฒนา วัดสาขาของท่านถึง 4 แห่ง ก็คือ วัดตาอี,วัดบ้านปราสาท,วัดบ้านบึงเก่า และวัดบ้านกรวด เป็นรูปเป็นร่างมาจน ถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด ท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ท่านได้ปฏิเสธ ในการสร้าง วัตถุมงคล มาโดยตลอด แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้รบเร้า หลวงปู่ว่า มีผู้เลื่อมใสศรัธา ในตัวหลวงปู่ ประสงค์อยากจะได้พระเครื่อง วัตถุมงคลของหลวงปู่ผาดไว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต หลวงปู่ท่านก็เลยอนุญาต ให้จัดสร้าง วัตถุมงคล ที่ออกมาภายใต้ชื่อ หลวงปู่ผาด
- ขุนแผนพรายกุมาร หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด
- พญาหมูมหาเฮง พลิกฟื้นชะตาชีวิตจากร้ายกลายเป็นดี หลวงพ่อผาด
- หนุมานมหาอำนาจ หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
- กุมารทอง พรายเรียกทรัพย์ หลวงปู่ผาด
- พระลักษณ์หน้าทองหลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
- ท้าวเวสสุวัณ หลวงพ่อผาด
เครื่องรางจิ้งจกสองหาง ความเชื่อ
แม้แต่จิ้งจกที่เกาะแปะอยู่ตามฝาผนังบ้านก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นทำเนียบเครื่องรางของขลังกับเขาเหมือนกันแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นจิ้งจกธรรมดาๆ เสียเมื่อไหร่เพราะจิ้งจกชนิดนี้เป็นจิ้งจกแปลกที่มีหางสองหาง
เครื่องรางชนิดนี้ก็คือ ซากจิ้งจกที่มีส่วนหางเป็นแฉก มีความเชื่อว่าจิ้งจกนี้จะนำลาภมาให้ คนสมัยโบราณมักจะนำซากจิ้งจกนี้ไปถักเชือกลงรักเลี่ยมกรอบใช้เป็นเครื่องรากพกพาติดตัว โดยหางที่สองอาจเกิดจากความผิดปกติของยีนในตัวจิ้งจก จึงมีกระดูกอ่อนเล็กๆอีกชิ้นหนึ่งยื่นออกมจากบริเวณปลายหางเล็กน้อยมองเห็นเป็นสองแฉก ซึ่งในร้อยตัวอาจจะพบเจอจิ้งจกพิสดารนี้สัก 2 – 3 ตัว จึงกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ไปเสียเฉยๆ ตามธรรมชาติของหางจิ้งจกนั้นเมื่อขาดไปแล้วจะสามารถงอกใหม่ได้ จิ้งจกจะสละหางเพื่ออำพรางศัตรูแล้วตัวมันก็หนีไป แต่ในทางความเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์จิ้งจกสองหางถือว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีไว้ในครอบครอง
ความเป็นมาของเรื่องราวชนิดนี้ว่ากันว่าเป็นวิชาเวทโบราณเป็นวิชาแก้วสารพัดนึก สามารถเรียกโชคลาภและเด่นไปในทางเสน่ห์กามคุณ กล่าวกันว่าเมื่อจิ้งจกพิสดารนี้ตายซากจะไม่เน่าแต่จะแห้งแข็งคล้ายหิน อย่างไรก็ดีก็ยังมีผู้ที่ทำของปลอมเลียนแบบเข้าใจว่าเป็นเพราะจิ้งจกที่มีลักษณะพิกลนี้เป็นของหายาก ทำเลียนแบบนั้นง่ายกว่ากันเยอะเอาจิ้งจกทั่วไปมารีดหางออกให้เป็นสองแฉกแล้วนำไปเลี่ยมกรอบแล้วกล่าวอ้างสรรพคุณให้ดูสมจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่จะเช่าเขาจะแยกแยะของจริงของปลอมไม่ออก
การสร้างเครื่องรางชนิดนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่ซากของจิ้งจกที่มีสองหางเท่านั้นยังมีทั้งการแกะงา กะลาตาเดียว และไม้กัลปังหาดำเป็นรูปจิ้งจกสองหางอุดด้วยผงยันต์จากหางของจิ้งจกตัวผู้กับตัวเมียธรรมดาอย่างละหนึ่งตัวบดกับยันต์ใบไม้ชนิดหนึ่งที่เขียนรูปจิ้งจกแล้วชุบน้ำมันอีกวิธีหนึ่งคือ สร้างมาจากเนื้อผสมบ้าง ทองแดงบริสุทธิ์บ้างและโลหะอาถรรพณ์ต่างๆ หล่อเป็นรูปจิ้งจกตัวอ้วนท้วนมีหางสองแฉกแล้วลงอักขระชุบน้ำมันเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีผ้ายันต์ แผ่นยันต์โลหะและการสักยันรูปจิ้งจกด้วยสีดำ แดง และน้ำมัน โดยการสักนั้นมีทั้งการสักเป็นตัวจิ้งจกสองหาง จิ้งจกธรรมดาแบบตัวเดียว หรือสองตัวซึ่งมีลักษณะของหางเกี่ยวรัดกัน อันเป็นความเชื่อในเรื่องกามคุณทางนี้โดยเฉพาะ นิยมสักไว้ในที่ลับหรือตามแขนขาเชื่อกันว่าเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม เจรจาธุระสิ่งใดก็คล่องแคล่วไม่มีอุปสรรค
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)